โปรโมชั่น ชุดสุดยอด สมอง-หัวใจ-ไต อาหารเสริมบำรุงไตให้แข็งแรง

โปรโมชั่น ชุดสุดยอด สมอง-หัวใจ-ไต อาหารเสริมบำรุงไตให้แข็งแรง
รหัสสินค้า SKU-01052
หมวดหมู่ ♥♥ กลุ่มบำรุงไต
ราคาปกติ 2,975.00 บาท
ลดเหลือ 2,430.00 บาท
สถานะสินค้า พร้อมส่ง
ลงสินค้า 24 ส.ค. 2568
อัพเดทล่าสุด 24 ส.ค. 2568
คงเหลือ ไม่จำกัด
จำนวน
ชิ้น
หยิบลงตะกร้า
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay

โปรโมชั่น ชุดสุดยอด สมอง-หัวใจ-ไต

ยูบิควินอล มิกซ์ + เกรฟ ซีด ออย พลัส เกรฟ ซีด เอ็กแทรกซ์ + ฟิชเชอร์ โกลด์

เกรฟ ซีด ออย พลัส เกรฟ ซีด เอ็กแทรกซ์ 30 แคปซูล

 


น้ำมันเมล็ดองุ่นสกัดเย็นคืออะไร

น้ำมันเมล็ดองุ่นสกัดเย็นผ่านกระบวนการสกัดที่ใช้ความดันสูง และความเย็นในการสกัด เพื่อให้ได้น้ำมันเมล็ดองุ่น ที่คงคุณค่าของสารสกัดเมล็ดองุ่นตามธรรมชาติ ปราศจากการใช้ความร้อน และสารเคมีในการสกัด

ประโยชน์ของน้ำมันเมล็ดองุ่นสกัดเย็น

1. ในเมล็ดองุ่นมีสาร OPC (Oligomeric Proanthocyanidin) ปริมาณสูงมาก กรรมวิธีการสกัดเย็นเป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่ยังคงรักษาคุณสมบัติของการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระของสาร OPC เอาไว้อย่างสมบูรณ์ สารต้านอนุมูลอิสระที่มีปริมาณสูงมากในน้ำมันเมล็ดองุ่นสกัดเย็น ช่วยให้เราได้รับสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่พอเพียง

2. ในน้ำมันเมล็ดองุ่นสกัดเย็นยังคงคุณค่าของสารธรรมชาติอื่นๆที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และ ผิวพรรณร่วมกันต้านอนุมูลอิสระ และบำรุงสุขภาพเช่น เคทิชิน (Catechin) อิพิเคทิชิน (Epicatechin) วิตามินอี (VitaminE) และเลซิทิน (Lecithin) น้ำมันเมล็ดองุ่นจึงให้ผลที่โดดเด่นยิ่ง ในด้านของการบำรุงผิวพรรณ

3. สาร OPC ในน้ำมันเมล็ดองุ่นได้รับการทดสอบแล้วว่ามีคุณสมบัติ ในการป้องกันโรคหัวใจลดการเกิดลิ่มเลือด การอุดตันของหลอดเลือดทำให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้นเสริมความแข็งแรงของหลอดเลือดหัวใจ และกล้ามเนื้อหัวใจบรรเทาอาการเส้นเลือดเปราะ เส้นเลือดฝอยแตก หลอดเลือดอุดตัน ปรับสมดุลโคเลสเตอรอล ในร่างกาย เป็นการลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือด และหัวใจ ให้ความแข็งแรง และยืดหยุ่นกับหลอดเลือดฝอย ชะลอความเสื่อมของจอประสาทตา

4. การที่สาร OPC อยู่ในน้ำมันเมล็ดองุ่นสกัดเย็นทำให้ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ทั้งหมดในเวลาอันรวดเร็ว จึงกำจัดอนุมูลอิสระในร่างกายได้ทันที

สาร OPC มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินซีถึง 50 เท่า และสูงกว่าวิตามินอี ถึง 20 เท่า จึงจัดได้ว่า สาร OPC มีคุณสมบัติเป็นซุปเปอร์แอนตี้ออกซิแดนท์ ( Super Antioxidant ) ที่ปกป้องเซลล์ของร่างกายจากการทำลายโดยอนุมูลอิสระ เช่น เซลล์สมอง และเซลล์อวัยวะอื่นๆ ลดอาการอักเสบ อาการบวมของข้อต่อ ป้องกันโรคข้ออักเสบ ป้องกัน และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง สาร OPC ในน้ำมันเมล็ดองุ่นสกัดเย็นจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ทั้งหมดในเวลาอันรวดเร็ว และสามารถจับกับโปรตีนที่เป็นโครงสร้างของคอลลาเจนในผิวได้ดี จึงช่วยปกป้องคอลลาเจน และผิวจากการทำลายของอนุมูลอิสระ ให้ผิวมีสุขภาพดีคงความอ่อนเยาว์ ยืดอายุของเซลล์ผิว และช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวทำให้ผิวเต่งตึง กระชับ


References

1. Sanders K, Johnson L, O’Dea K, Sinclair AJ. The effect of dietary fat level and quality on plasma lipoprotein lipids and plasma fatty acids in normocholester olemic subjects. Lipids 1994 Feb; 29(2):129-38 2. Heyden S. Polyunsaturated and monounsaturated fatty acids in the diet to prevent coronary heart disease via cholesterol reduction. Ann Nutr Metab 1994; 38(3):117-22 3. Andriambeloson E et at. Natural dietary polyphenolic compounds. J Nutr 1998; 128: 2324-33

เอกสารเพื่อการอบรมภายในบริษัทเท่านั้น

 
 
 
 

น้ำมันปลา (Fish Oil)

1. ด้านสมอง และระบบประสาท น้ำมันปลา บำรุงสมอง ระบบประสาท และจอตา เพิ่มความทรงจำ เพิ่มประสิทธิภาพของสมองในการคิด เรียนรู้ และพัฒนา เพิ่มพลังสมอง ไม่ให้อ่อนล้า ต้านความเสื่อมของสมอง ต้านอาการซึมเศร้า

2. ด้านหัวใจ และหลอดเลือด ปรับสมดุลโคเลสเตอรอล และไตรกลีเซอร์ไรด์ในหลอดเลือด ลดความหนืดของเลือดทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ป้องกันลิ่มเลือดอุดตันขยายหลอดเลือด ปรับสมดุลความดันโลหิตป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด ป้องกันเส้นเลือดอุดตัน ลดความเสี่ยงของหัวใจวาย

3. เพิ่มประสิทธิภาพในการรักษามะเร็ง น้ำมันปลาช่วยระงับการเจริญเติบโต และการแผ่ขยายของเซลล์มะเร็ง และระงับการสร้างเส้นเลือดใหม่ เพื่อไม่ให้เซลล์มะเร็งได้รับสารอาหาร ให้ผลดีเป็นพิเศษกับมะเร็งที่เกี่ยวพันกับฮอร์โมน เช่น มะเร็งเต้านมมะเร็งต่อมลูกหมาก นอกจากนี้ ยังให้ผลดีกับมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งปอด และมะเร็งตับด้วย ทั้งในแง่ของการช่วยรักษา และการป้องกัน

4. น้ำมันปลาให้ผลดีกับโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ และโรค SLE

5. น้ำมันปลาให้ผลดีกับโรคสะเก็ดเงิน ทั้งจากการรับประทาน และจากการทา รวมทั้งภาวะผิวหนังแห้งเป็นสะเก็ด โรคผิวหนัง น้ำเหลืองพุพอง รังแคหนังศีรษะ และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น

6. น้ำมันปลาให้ผลดีกับผู้ป่วยไตพิการ และ คนไข้ผ่าตัดเปลี่ยนไต

7. น้ำมันปลาป้องกันโรคตามัว ตาบอดในวัยชรา และป้องกันอาการตาแห้ง

8. น้ำมันปลาช่วยรักษาแผลเน่าเรื้อรังในผู้ป่วยเบาหวาน

9. น้ำมันปลาช่วยรักษาอาการปวดหลัง และปวดคอเรื้อรัง ช่วยให้หมอนรองกระดูกแข็งแรงขึ้น ชะลอความเสื่อมของกระดูกอ่อน ระงับความปวด และ อาการอักเสบบริเวณข้อ

สารสกัดจากใบแปะก๊วย (Gingko Biloba Extract) มีฤทธิ์เพิ่มความทรงจำทั้งระยะสั้น และระยะยาว ต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการทำลายของเซลล์สมอง ป้องกัน ชะลอ และรักษาโรคสมองเสื่อม หรือที่เรียกว่า โรคอัลไซเมอร์ เพิ่มความตื่นตัว และสมาธิ ช่วยลดภาวะซึมเศร้า เพิ่มการไหลเวียนของเลือด ยับยั้งการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ป้องกันหลอดเลือดอุดตันช่วยอาการปวดศีรษะไมเกรน ช่วยอาการเสียงดังในหู และการได้ยินเสื่อม รวมทั้งอาการเวียนศีรษะที่เกิดจากน้ำในหูไม่เท่ากัน หยุดยั้งสภาวะโรคตับแข็งที่เกิดขึ้นจากไวรัสตับอักเสบ ชะลอความเสื่อมของประสาทตา และเสริมสมรรถนะทางเพศ


ส่วนประกอบสำคัญ : ใน 1 แคปซูล ประกอบด้วย
น้ำมันปลา 450 มก.
ประกอบด้วยกรดไขมันจำเป็นกลุ่มโอเมก้า 3
DHA (40%) 180 มก.
EPA (20%) 90 มก.
สารสกัดจากใบแปะก๊วย 50 มก.
   
วิธีรับประทาน :
รับประทานวันละ 1 แคปซูล หลังอาหาร
   
ขนาดบรรจุ : 30 แคปซูล
ราคาขาย : 625 บาท
   
 

 


References

1. Albert CM, Hennekens CH, O’Donnell CJ, et al. Fish consumption and risk of sudden cardiac death. JAMA. 1998;279(1):23-28. 2. Al-Harbi MM, Islam MW, Al-Shabanah OA, Al-Gharably NM. Effect of acute administration of fish oil (omega-3 marine triglyceride) on gastric ulceration and secretion induced by various ulcerogenic and necrotizing agents in rats. Fed Chem Toxic. 1995;33(7):555-558. 3. Andreassen AK, Hartmann A, Offstad J, Geiran O, Kvernebo K, Simonsen S. Hypertension prophylaxis with omega-3 fatty acids in heart transplant recipients. J Am Coll Cardiol. 1997;29:1324-1331.

 



 
 
 

โคเอนไซม์คิวเทน หรือโคคิวเทน มีอีกชื่อหนึ่งว่า Ubiquinone (ยูบิควิโนน) เมื่อเรารับประทานโคเอนไซม์คิวเทนเข้าไปในร่างกาย Ubiquinone จะถูกเปลี่ยนรูปเป็น Ubiquinol (ยูบิควินอล) ซึ่งเป็นรูปแบบที่ออกฤทธิ์โดยตรง

นักวิทยาศาสตร์พบว่า ในคนแต่ละคน ร่างกายจะมีความสามารถในการเปลี่ยน Ubiquinone ไปเป็น Ubiquinol ได้ไม่เท่ากัน และยังพบว่า ร่างกายสามารถดูดซึม Ubiquinol ได้ดีกว่า Ubiquinone มีการประมาณว่า ในปริมาณที่เท่ากัน Ubiquinol จะมีระดับยาในเลือดหลังการรับประทานมากกว่า Ubiquinone ถึง 2-3 เท่า (เทียบการรับประทาน Ubiquinol 30 มก. เท่ากับ การรับประทานโคเอนไซม์คิวเทน (Ubiquinone) ถึง 100 มก.)

เมื่อเรารับประทานโคคิวเทนเข้าไป โคคิวเทนส่วนหนึ่ง ยังคงอยู่ในรูปแบบของ Ubiquinone ในขณะที่บางส่วนถูกเปลี่ยนเป็น Ubiquinol ซึ่งเป็นรูปแบบที่ออกฤทธิ์ การรับประทาน Ubiquinol ซึ่งเป็นรูปแบบที่ออกฤทธิ์โดยตรง จะทำให้ใช้ปริมาณในการรับประทานน้อยกว่า การกินโคคิวเทนถึงประมาณ 3 เท่า ระยะเวลาในการออกฤทธิ์รวดเร็วกว่า และระยะเวลาในการออกฤทธิ์จะอยู่ได้นานกว่าด้วย

ในโรคที่ต้องใช้การรับประทานโคคิวเทนในปริมาณมากต่อวัน เช่น โรคหัวใจ และหลอดเลือด และโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งต้องการการรับประทานโคคิวเทนถึงวันละ 100 มก./วัน จะสามารถเทียบได้กับการรับประทาน Ubiquinol ในปริมาณ 30 มก./วัน เท่านั้น เพื่อจะได้รับผลแบบเดียวกัน

งานวิจัยทางการแพทย์ของการใช้โคเอนไซม์คิวเทนในปัจจุบัน มีตั้งแต่การรับประทานโคคิวเทนในการป้องกันและร่วมรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด การป้องกันมะเร็งผิวหนัง และป้องกันความชราของผิวพรรณ การป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งเต้านม การปรับสมดุลน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยเบาหวาน และการป้องกันการถูกทำลาย และสูญเสียความยืดหยุ่นของด้านในผนังหลอดเลือด การชะลอความก้าวหน้าของโรคพาร์กินสัน การป้องกันการปวดศีรษะไมเกรน การกระตุ้นภูมิต้านทาน การป้องกันโรคของเหงือก และฟัน การป้องกันสายตาเสื่อม และการเพิ่มความแข็งแรง และจำนวนสเปิร์มที่มีชีวิตในเพศชาย

โทโคไตรอินอล (Tocotrienol) เป็นรูปแบบของวิตามินอีที่ดีที่สุดในธรรมชาติ สามารถแทรกตัวอยู่ในผนังเซลล์ได้ดีกว่าวิตามินอีในรูปแบบอื่นๆ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง

ซีลีเนียม อะมิโน แอซิด คีเลท ซีลีเนียมเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงประสิทธิภาพ ทำงานร่วมกับวิตามินอี หากได้รับพร้อมกันจะมีประสิทธิภาพสูงในการขจัดอนุมูลอิสระ และยังช่วยกระตุ้นเอนไซม์ที่ต้านอนุมูลอิสระให้ทำงานดีขึ้น ซีลีเนียมจำเป็นสำหรับการทำงานของกล้ามเนื้อ รวมทั้งกล้ามเนื้อหัวใจ

ไพริดอกซีน ไฮโดรคลอไรด์ (วิตามินบี 6) ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกายให้แข็งแรง ช่วยป้องกันการเกิดนิ่วในไต ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ วิตามินบี6จะช่วยสร้างฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง และยังทำให้ hemoglobin นำออกซิเจนได้เพิ่มขึ้น

วิตามินบี 12 ช่วยเปลี่ยนสารอาหารที่รับประทานเข้าไปให้อยู่ในรูปของกลูโคสเพื่อเป็นแหล่งพลังงานในร่างกาย เสริมการทำงานของระบบประสาทและไขสันหลัง ช่วยในกระบวนการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง ป้องกันการเกิดภาวะโลหิตจางจากเม็ดเลือดมีขนาดใหญ่ผิดปกติ

กรดโฟลิค ( วิตามินบี 9) มีส่วนช่วยในกระบวนการเผาผลาญโปรตีน มีความสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดง มีความจำเป็นต่อการแบ่งตัวของเซลล์ นอกจากนี้ร่างกายต้องใช้ในกระบวนการเผาผลาญน้ำตาลและกรดอะมิโน


References

1. Dhanasekaran M, Ren J. The emerging role of coenzyme Q-10 in aging, neurodegeneration, cardiovascular disease, cancer and diabetes mellitus. Curr Neurovasc Res. 2005 Dec;2(5):447-59. 2. Wang XL, Rainwater DL, Mahaney MC, Stocker R. Cosupplementation with vitamin E and coenzyme Q10 reduces circulating markers of inflammation in baboons. Am J Clin Nutr. 2004 Sep;80(3):649-55. 3. Rosenfeldt FL, Pepe S, Linnane A, et al. Coenzyme Q10 protects the aging heart against stress: studies in rats, human tissues, and patients. Ann NY Acad Sci. 2002 Apr;959:355-9.

เอกสารเพื่อการอบรมภายในบริษัทเท่านั้น

Related Products

วิธีการชำระเงิน

สนใจสั่งซื้อสินค้า /สนใจทำเป็นรายได้เสริม /สนใจทำเป็นธุรกิจ

บมจ. ธนาคารกสิกรไทย สาขาฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต ออมทรัพย์

MEMBER

STATISTICS

หน้าที่เข้าชม229,496 ครั้ง
เปิดร้าน31 ม.ค. 2556
ร้านค้าอัพเดท19 ก.ย. 2568

โทรสายด่วนสุขภาพ

094-2404409
พูดคุย-สอบถาม