
| รหัสสินค้า | SKU-01075 |
| หมวดหมู่ | ◕ ที่รัดเข่าแม่เหล็ก |
| ราคาปกติ | |
| ลดเหลือ | 4,730.00 บาท |
| สถานะสินค้า | พร้อมส่ง |
| ลงสินค้า | 20 ก.ย. 2568 |
| อัพเดทล่าสุด | 23 ก.ย. 2568 |
| คงเหลือ | ไม่จำกัด |
| จำนวน | ชิ้น |
โรคข้อเข่าเสื่อม เกิดจากการที่กระดูกอ่อนซึ่งทำหน้าที่ปกป้องและดูดซับแรงกระแทกภายในข้อเข่ามีการสึกหรอและเสื่อมสภาพลง หากกระดูกอ่อนนี้เสียหายเป็นพื้นที่กว้าง กระดูกในข้อเข่าจะเสียดสีกันเอง ทำให้เกิดการอักเสบและมีอาการปวด เข่าเสื่อมอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆได้เช่น ข้ออักเสบรูมาตอยด์ เมื่อข้ออักเสบอยู่บ่อยๆ ก็อาจจะทำให้ข้อเสื่อม สึกได้เร็วขึ้น หรือ อาจเกิดจากการเกิดอุบัติเหตุมาก่อน จนกระดูกหัก ทำให้แนวแกนขาเปลี่ยนไป อาจเป็นกระดูกหน้าแข้ง กระดูกต้นขาหัก หรือกระดูกตรงเข่าหัก ทำให้การรับแรงเปลี่ยนไปเกิดเสื่อมสึกได้ หรือ อาจะเกิดจากฝ่าเท้า อุ้งเท้าผิดปกติ ทำให้การรับน้ำหนักของเข่าผิดปกติ เข่าจะเริ่มเจ็บ และ เสื่อมได้
สารอาหารที่มีงานวิจัยในเรื่องข้อต่อและกระดูก มีน้ำมันผลกุหลาบ คอลลาเจน สารสกัดจากข้อต่อกระดูกอ่อนปลาฉลาม และ น้ำมันปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 ชนิด EPA สูง ซึ่งลดอาการอักเสบได้เป็นอย่างดี
ในทางพลังงานบำบัด การให้ข้อเข่าที่บาดเจ็บได้สัมผัสกับคลื่นฟาร์อินฟาร์เรด ซึ่งเป็นรังสีแห่งการรักษา ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และ กระตุ้นการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย เป็นการรักษาแบบองค์รวมอีกทางหนึ่ง รวมถึงการใช้พลังงานแม่เหล็กในการบำบัดการบาดเจ็บ อักเสบ และ สึกหรอในบริเวณข้อเข่า
แม่เหล็กในทางการแพทย์ ให้ผลในการกระตุ้นการไหลเวียนเลือดในเส้นเลือดฝอยเล็กๆ ให้พลังงานแก่เซลล์เพื่อให้เซลล์ซ่อมแซมตัวเอง ทั้งเซลล์เนื้อเยื่อ ข้อต่อ กระดูก และ กระดูกอ่อน ลดอักเสบและลดบวม พลังแม่เหล็กเฉพาะที่ (Static Magnet) ให้ผลในการลดปวด ขนาดของแม่เหล็กเพื่อการบำบัดเริ่มต้นที่ 200 เกาส์ (Gauss) ในขณะที่ที่รัดเข่าแม่เหล็กไวทอป ซึ่งประกอบด้วยเส้นใย MBF และ แม่เหล็กจำนวน 16 ชิ้น ความแรงชิ้นละ 2,200 เกาส์ รวมเป็นความแรงของแม่เหล็ก 35,200 เกาส์ ซึ่งเป็นความแรงที่พอเพียงสำหรับการบำบัด
| วิธีใช้ : | |
| สำหรับเข่า | |
| คุณสมบัติ : | |
| กระตุ้นการไหลเวียน และปรับสมดุลความดันโลหิต กระตุ้นภูมิต้านทาน เพิ่มออกซิเจนให้เซลล์ และลดการอักเสบ การบาดเจ็บ หรือบาดแผล ในบริเวณที่เส้นใยแม่เหล็กสัมผัส | |
| ส่วนประกอบสำคัญ : | |
| ไฮโดรไลเสท | 500 มก. |
| คอลลาเจนไทป์ทู | 500 มก. |
| วิธีรับประทาน : | |
| รับประทานวันละ 2 เม็ด ควรรับประทานคนละเวลากับอาหารเสริมที่มี OPC |
|
| ขนาดบรรจุ : | 30 เม็ด |
| ราคาขาย : | 1,250 บาท |
![]() |
|
คอลลาเจน ประเภทที่ I,II,III
สูตรสมบูรณ์ของคอลลาเจน
สารอาหารบำรุงผิว ผม เล็บ ผนังหลอดเลือด กระดูก และ ข้อต่อ
คอลลาเจน เป็นโปรตีนหลักของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันทั่วร่างกาย และ เป็นโปรตีนที่มีปริมาณมากที่สุดในร่างกาย คือ เป็นปริมาณถึง 25% - 35% ของโปรตีนทั่วร่างกาย โครงสร้างของคอลลาเจนโปรตีน ประกอบด้วยกรดอะมิโนหลายชนิดมาร้อยเรียงกัน เป็นรูปเกลียวที่เรียกว่า ทริปเปิ้ล เฮลิกซ์ (Triple Helix) หรือ คอลลาเจน เฮลิกซ์ (Collagen Helix) ซึ่งทำหน้าที่ประสาน เป็นโครงสร้าง และ สร้างความยืดหยุ่นให้ส่วนต่างๆของร่างกาย
คอลลาเจนเป็นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่พบทั่วไปในร่างกาย แต่ส่วนใหญ่จะพบในผิว ผม เล็บ กระดูก กระดูกอ่อน เอ็น และ ผนังด้านในของหลอดเลือด คอลลาเจนที่อยู่ในโครงสร้างของแต่ละอวัยวะของร่างกาย ทำหน้าที่ต่างๆกัน เช่น คอลลาเจนที่อยู่ในกระดูกจะเป็นฐานให้แคลเซียมมาเกาะ ทำให้กระดูกมีลักษณะแข็ง คอลลาเจนในเอ็นจะมีลักษณะยืดหยุ่นกว่า คอลลาเจนที่อยู่ในกระดูกอ่อนจะมีความแข็งไม่เท่ากระดูก คอลลาเจนไม่เพียงแต่อยู่ในผิวหนังชั้นหนังแท้ กระดูก กระดูกอ่อน และ เอ็นเท่านั้น คอลลาเจนยังมีปริมาณมากในกระจกตา ในผนังหลอดเลือด ในทางเดินอาหาร ในหมอนรองกระดูก ในฟัน และ มีอยู่ในกล้ามเนื้อถึง 6%
เซลล์ที่ทำหน้าที่ในการผลิตคอลลาเจน และ อิลาสติน คือ เซลล์ที่เรียกว่าไฟโบรบลาสท์ (Fibroblast) คอลลาเจนมาจากภาษากรีกที่แปลว่า “กาว” ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่ทำหน้าที่ประสานส่วนต่างๆในร่างกายให้เป็นรูปเป็นร่างอยู่ได้ คอลลาเจนในทางการแพทย์มีที่ใช้ในการรักษาความผิดปกติของผิวหนังและกระดูก ช่วยลดการสลายคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้กระดูก ข้อต่อ ผิว ผม เล็บแข็งแรง แลดูสุขภาพดี และ อ่อนเยาว์
คอลลาเจนมีมากกว่า 30 ชนิดในร่างกาย แต่ชนิดที่นักวิทยาศาสตร์สามารถแยกโมเลกุลออกมาได้ เพื่อมาทำงานวิจัยประโยชน์ในทางการแพทย์ คือ คอลลาเจนชนิดที่ 1,2 และ 3 (Collagen Type I,II,III) ซึ่งมีหน้าที่ต่างๆกันในร่างกาย
1. คอลลาเจนชนิดที่ 1 (Collagen Type I) : เป็นคอลลาเจนที่มีปริมาณมากที่สุดในร่างกาย Collagen Type I เป็นคอลลาเจนที่ป้องกันการสลายของคอลลาเจนในผิว ผม เล็บ และ เป็นคอลลาเจนที่ลดปริมาณลงอย่างรวดเร็วมากหลังเราอายุได้ 25 ปี ผลการลดลงของคอลลาเจน Type I ทำให้หน้าและผิวของเราหย่อนคล้อย นอกจากนี้ Collagen Type I ยังเป็นคอลลาเจนหลักในเอ็น อวัยวะต่างๆ และ ในกระดูกด้วย ในร่างกาย Collagen Type I มักจะพบร่วมกับ Collagen Type III 2. คอลลาเจนชนิดที่ 2 (Collagen Type II) : มีความสำคัญอย่างมาก สำหรับข้อต่อและพบมากในกระดูกอ่อน โดยมีปริมาณถึง 50% ของโปรตีนในกระดูกอ่อน และ มีปริมาณมากถึง 85 – 90% ในข้อต่อกระดูก งานวิจัยทั้งในสัตว์ทดลองและในมนุษย์ พบว่าการรับประทาน Collagen Type II ช่วยลดอาการปวดข้อ ช่วยให้การเคลื่อนไหวของข้อต่อดีขึ้น ลดการอักเสบ ลดการสึกกร่อนของข้อต่อได้ นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างข้อต่อใหม่ และ ยังช่วยป้องกันการเป็นข้อต่อเสื่อม ข้อต่ออักเสบในอนาคตด้วย 3. คอลลาเจนชนิดที่ 3 (Collagen Type III) : มีโครงสร้างที่แตกต่างกับคอลลาเจนชนิดอื่นๆ คือ เป็นคอลลาเจนสายเดี่ยว พบได้ปริมาณน้อย คือ ประมาณ 10% ของคอลลาเจนทั่วร่างกาย มักพบในผิวหนังที่เริ่มมีการสร้างใหม่ เช่น ผิวหนังที่เป็นแผล หลอดเลือด ส่วนมากจะพบในผิวของเด็ก ผิวเด็กจึงดูนุ่มเนียน เต่งตึง และ ยังมีความสำคัญมาก เพราะเป็นตัวพิทักษ์หลอดเลือด ซึ่งมีบทบาทอย่างยิ่งในเรื่องโรคที่ทำให้หลอดเลือดมีการอักเสบ โดย Collagen Type III จะทำหน้าที่พิทักษ์หลอดเลือดไม่ให้เสียหาย และ เป็นคอลลาเจนที่เจอมากในผนังลำไส้ด้วยReferences
1. Di Lullo, Gloria A.; Sweeney, Shawn M.; K?rkk?, Jarmo; Ala-Kokko, Leena & San Antonio, James D. (2002). "Mapping the Ligand-binding Sites and Disease-associated Mutations on the Most Abundant Protein in the Human, Type I Collagen". J. Biol. Chem.277 (6): 4223–4231 2. Sikorski, Zdzislaw E. (2001). Chemical and Functional Properties of Food Proteins. Boca Raton: CRC Press. p. 242 3. Oliveira, S; R Ringshia; R Legeros; E Clark; L Terracio; C Teixeira M Yost (2009). "An improved collagen scaffold for skeletal regeneration". Journal of Biomedical Materials. 94 (2): 371–379.เอกสารเพื่อการอบรมภายในบริษัทเท่านั้น
ข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม
มาเพิ่มมวลกระดูกกันเถอะ
![]()

| หน้าที่เข้าชม | 229,772 ครั้ง |
| เปิดร้าน | 31 ม.ค. 2556 |
| ร้านค้าอัพเดท | 6 พ.ย. 2568 |

